[ รีวิว ] Nokia X30 5G : งานพรีเมี่ยมเพื่อคนรักโนเกียเท่านั้น | บ้านคนรักโนเกีย



ปี 2022 วงการสมาร์ทโฟนดูเหมือนจะเงียบเหงากว่าที่เคยแม้จะเป็นไตรมาสสุดท้ายของปี  แต่ดูเหมือนทาง HMD Global​ ผู้ได้รับสิทธิ์จากโนเกียในการใช้แบรนด์สมาร์ทโฟน Nokia จะไม่สะเทือนเท่าใดแถมทั้งปีก็ปล่อยของกันไม่หยุดทั้งปี ทั้งไลน์มือถือปุ่มกด สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ แท็บเล็ต อุปกรณ์หูฟังเคสต่างๆ และล่าสุดกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์สุดคลีนอย่าง "Nokia X30 5G​" ที่ชูจุดเด่นความเป็น PureView​ ที่ถ่ายภาพสวยในแบบของโนเกีย วันนี้เราจะมาดูกันครับว่าน่าสนใจแค่ไหน

Nokia X30 5G มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์รักษ์โลก กล่าวคือ วัสดุตัวแกนกลางเป็นอลูมิเนียมรีไซเคิล 100% พร้อมฝาหลังโพลีคาร์บอเนตรีไซเคิล 65% อีกทั้งกระบวนการผลิตเครื่องจะใช้ขั้นตอนในการปล่อยก๊าซทำลายชั้นบรรยากาศ "น้อยที่สุด" เท่าที่จะทำได้

ตัวแพคเกจจิ้งถูกผลิตจากกระดาษรีไซเคิล 100% และในกล่องมีตัวเครื่องพร้อมสาย USB แบบ Type​ C​ to C ไม่แถมอแดปเตอร์ที่ชาร์จไฟให้นะครับต้องซื้อแยกต่างหากหรือนำของเก่ามาใช้งานใหม่








- ความรู้สึกแรกสัมผัส
ต้องบอกตามตรงว่า "สวยกว่าที่คิดเยอะเลย" ตัวเครื่องค่อนข้างเบา ถือนานๆแล้วไม่ล้าข้อมือ งานละเอียดละมุนทุกมุม ไม่มีมุมไหนที่จะขูดมือเราหรือจับแล้วสะดุด ขอบโลหะตัวเครื่องมีความมนนิดๆไม่ได้เหลี่ยมจนตั้งพื้นได้แบบรุ่นอื่น เสริมให้กระชับเข้ามือตอนจับถือมากขึ้นครับ

- ระบบใหม่ Android 12 
X30 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Pure Android 12 ในตัว ทางเอชเอ็มดียืนยันว่าจะได้รับการอัพเกรดระบบอีก 2 เวอร์ชั่น (13 และ 14) และอัพเดทความปลอดภัยนาน 3 ปีเต็ม 

เมื่อลองเล่นทดสอบดูคร่าวๆพบว่าระบบเสถียรมาก ไม่มีอาการค้างหน่วงแต่อย่างใด ตัวนาฬิกาแบบใหม่ ธีมสีแบบใหม่ รวมถึงแบบแถบเจ้งเตือนใหม่เมื่ออยู่บนฮาร์ดแวร์ของรุ่นนี้ยิ่งทำให้สร้างประสบการณ์การใช้แอนดรอยด์ที่ดีมากขึ้นครับ 

- ตัวเครื่อง
ทำจากอลูมิเนียมรีไซเคิลและมีแผ่นฝาหลังเป็นพลาสติกโพลีคาร์บอเนตเลื่อมเงาคล้ายกระจก ด้านหลังมีกล้องดิจิตอลขนาด 50 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED หนึ่งตัว

ด้านหน้าเป็นจอภาพ AMOLED แบบ FHD 90Hz ขนาด 6.43 ซึ่งผมมองว่าขนาดกำลังมาตรฐานเหมาะกับการจับถือ มีกล้องหน้าแบบเจาะรู 16 ล้านพิกเซล เคลือบทับด้วยกระจก Gorilla​ Glass Victus ที่การันตีว่าสามารถทนแรงขีดข่วนสูงและกันแตกจากการตกพื้น 2 เมตรได้ พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอค่อนไปทางด้านล่าง


ด้านซ้ายราบเรียบไม่มีปุ่มใดๆ ส่วนด้านขวามีปุ่มกดเพาเวอร์และเพิ่มลดเสียงตามมาตรฐาน​ ตรงสันเครื่องด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงและบันทึกเสียง Nokia Ozo Audio ขนาบด้วยช่องลำโพงสนทนา และจบที่ด่านล่างเป็นช่องใส่ซิมการ์ด 2 ซิมไม่สามารถเพิ่มการ์ด MicroSD ได้ ตามด้วยพอร์ต USB - C และลำโพง (ตัวเดียวแต่เสียงดีมากๆ)

ตัวเครื่องกันน้ำ IP67 กันน้ำลึก 1 เมตร 30 นาทีแรกด้วย



- การทำงานทั่วไป
รุ่นนี้มาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm​ Snapdragon​ 695 5G​ (6 นาโนเมตร) ทำงานมาตรฐานลื่นไหลเครื่องลื่นไหล สลับหน้าแอพไปมาไม่มีสะดุด ส่งให้จอลื่นสวยถูกใจ

สามารถเล่นเกมได้ดีในกราฟิคระดับกลางค่อนไปทางสูง แอดมินมีโอกาสได้ลองเล่นเกมหลายเกมทั้ง Future Fight ที่กราฟิคสูงสุดอันนี้ลื่นๆภาพเนียนกริบและ Genshin Impact ที่กราฟิคล็อคมาที่ระดับน้อยสุดเพราะเครื่องจะแฮงค์ ก็ปรากฎว่าพอเล่นได้ประมาณนึงไม่สวยสุดใจแบบชิปเซ็ตบนๆ ความร้อนมีบ้างตามขอบเครื่องที่เป็นโลหะ สามารถถือได้แต่ถ้าใส่เคสจะรู้สึกเล่นต่อได้ปกติ ถือว่าสมกับคุณภาพชิบประมวลผลครับ

- ด้านการถ่ายภาพ
จุดเด่นของรุ่นนี้คือการนำชื่อ PureView มาใช้ต่อจาก Nokia 8.3 และ Nokia 9 โดยที่กล้อง Night Mode สามารถเก็บภาพอย่างสวยงามตอนกลางคืน ในกล้องมีลูกเล่นภาพนิ่งมากมายทั้ง HDR, ปรับผิวเนีย, มุมกว้าง, ถ่ายรูปบุคคล, พาโนรามา รวมทั้งถ่ายวิดีโอแบบ 1080p ที่ 60fps แบบโหมดภาพยนตร์บันทึกเสียงด้วยระบบ Nokia Ozo รวมถึงการปรับระบบกันสั่นของวิดีโอได้แบบเสถียรสูงสุดซึ่งถ่ายออกมาแล้วน่าพอใจมาก แต่ไม่รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K เนื่องจากข้อจำกัดของชิปประมวลผลนะครับ




ส่วนกล้องหน้าบอกเลยว่าสายความเรียลถูกใจ เพราะสีตรงมาก ชัดจนซูมเห็นรูขุมขน ส่วนโหมดบิวตี้ขอให้เปิดแค่กลางๆพอครับหน้ามันเรียบเกินไป ปลอมมากๆ ... ไม่เหมาะกับสายบิวตี้ที่ชอบถ่ายมาตาโต หน้าสวยเหมือนปัดแป้ง ปากแดงดุจทางอุทัยทิพย์ ... มันเรียลมากกกกกกก หน้าสดคือสด 




สิ่งที่ชอบในกล้องรุ่นนี้คือ กล้องหลังกดถ่ายยังไงก็สวย ยิ่งกลางคืนกล้องจัดการแสงหลอดไฟต่างๆดีมาก สีเข้ม ไม่มีเส้น ภาพไม่แตกเป็นวุ้น ... ถ้าให้เทียบน่าจะเป็นกล้องหลังมือถือโนเกียที่ฉลาดมากที่สุดในเวลานี้ ถูกใจแอดมินมากครับ ... ส่วนกล้องหน้ายังไม่รู้สึกว่าถ่ายแล้วตัวเองสวย
 



- แบตเตอรี่และการจัดการพลังงาน
แม้แบตเตอรี่ 4,000 มิลลิแอมป์จะน้อยเมื่อเทียบกับสมัยนิยมและราคา แต่การจัดการถือว่าทำได้ดี ผมเล่นเกมที่บอกข้างต้นมา 2 เกม เกมละ 1.30 ชม.โดยประมาณก็ยุบไปเกมละ 15-20% มีแบตเหลือไปอีก 50% ขึ้นไป ส่วนตัวมองว่าเค้าต้องการทำให้เครื่องนี้เบาลงนิดหน่อยเลยไม่ได้ยัดแบตเตอรีมากกว่านี้มาให้ครับ

สรุปในภาพรวม
ข้อดี 
- เครื่องเบาพกง่าย จอสวยมาก วัสดุพรีเมี่ยมเต็มสิบ
- จอใช้กระจก Victus ที่การันตีเรื่องความทนทาน ไม่เป็นขนแมวเล็กๆน้อยๆแม้ไม่ได้ติดฟิล์ม
- กันน้ำได้ สามารถถ่ายภาพในน้ำหรือป้องกันน้ำเข้าเวลาเกิดอุบัติเหตุ
- กล้องโหมดกลางคืนดี กลางวันเยี่ยม กดแล้วนำไปใช้ได้ทันทีไม่ต้องจัดแสงสีใดๆ ตัว AI ฉลาดที่สุดเท่าที่โนเกียเคยทำมา
- ลำโพงติดเครื่องเสียงดีเทียบเรือธง เสียงกว้าง มีเบสทุ้มๆฟังได้นานไม่แหลมให้ระคายหู

ข้อสังเกตุ 
- กล้องหน้าเหมาะกับสายเรียล ไม่เอาใจสายบิวตี้
- ในกล่องไม่แถมหัวชาร์จอแดปเตอร์ ทำให้เราต้องแสวงหาเองหัวชาร์จมาดึงประสิทธิภาพชาร์จเร็ว 33W ในเครื่องด้วยตัวเอง
- กล้องนูนมาก ถ้าใส่เคสบางกว่าขอบกล้องรับรองมีขูดบนพื้นราบ
- ในไทยมีสีให้เลือกแค่สีเดียว คือ Cloudy Blue ทำให้ความน่าสนใจลดลง 

สรุป 5 หัวข้อ 100%
1. รูปทรงภายนอก = 17/20
2. วัสดุงานประกอบ = 20/20
3. การใช้งานทั่วไป = 15/20
4. ประสิทธิภาพการทำงาน = 15/20
5. ราคา (เมื่อเทียบสเปค) = 10/20

รวมคะแนน = 77%


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

[ รีวิว ] Nokia X20 สมาร์ทโฟน 5G ชั้นเรือธงในราคาสบายๆ 6,990 บาท

[ บทความพิเศษ ] ทำไมถึงใช้ชื่อว่า "Lumia"

[บทความพิเศษ] อยากรู้ความหมายของ Nokia Sirocco มั้ย?