ทฤษฎีการเมือง : เมื่อวันนึงเราอาจเข้าใจว่าทำไม Nokia ปฏิเสธระบบ Android มาตลอด
ข่าวจากเว็บนึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขียนเรื่องนี้ ซึ่งมันตรงกับที่แอดมินเคยวิเคราะห์ไว้ในอดีต หากจะอ่านบทความนี้แบบเข้าใจมากขึ้น ฝากอ่านข่าวนี้ก่อนนะครับ ( ลิงค์ข่าว )
ในปี 2009 ระบบแอนดรอยด์และไอโอเอสที่มาจากอเมริกันกำลังมาแรงในยุคที่ Nokia ยังครองตลาด ช่วงนั้นระบบ Symbian สัญชาติอังกฤษกำลังแพ้ในด้านของแอพพลิเคชั่นเพราะความเก่าของสถาปัตยกรรมระบบ
อย่างที่ทราบว่าเราพยายามทำทุกทางแม้แต่พัฒนาระบบขึ้นใหม่ และล้มลงเพราะคำที่คนมองว่า "โนเกียหยิ่งในศักดิ์ศรี" หรือ "โนเกียไม่ยอมใช้แอนดรอยด์" แต่หากแยกคิดแค่คำว่า ยอม แปลว่า สวามิภักดิ์ต่ออะไรสักอย่างที่กำลังคุกคามเรา? ในสิ่งที่แอดมินคิดในช่วงนั้น
แน่นอนไม่มีใครคิดหรอกว่า Google มาตีโนเกียซะแตกกระจุย มีแต่คนคิดว่า Microsoft ตัวร้ายส่งผู้บริหารของเขามาไส้ศึกโนเกีย ... แล้วพวกเราเคยคิดต่อมั้ยถ้าวันนั้นโนเกียใช้ Android วันนี้จะเป็นอย่างไร?
หลับตานึกถึงการเมืองของในทุกๆบริษัทสมาร์ทโฟนที่ใช้ Android ... ยกตัวอย่าง เช่น
- Samsung : ค่ายเกาหลีใต้ลูกน้องสุดรักของพี่กัน พัฒนาระบบ Tizen ขึ้นมาเพื่ออะไรไม่รู้ตอนยอดขายดีๆ คิดอีกทีเหมือนกำลังหาแผนสำรองหรือกันท่าไม่ให้หุ่นเขียวทรงอำนาจชี้เป็นชี้ตายมากเกินไป
- Motorola : พี่น้องร่วมชาติอันนี้พังด้วยตัวเองจนพี่เกิ้ลมาซื้อไป ตอนแรกก็โอ๋กันดีมาก... แต่ที่แท้ลอกเอาสิทธิบัตรไปหมด แล้วโยนชื่อให้ Lenovo ซื้อไปถูกๆ (โชคดีที่เลอโนโวตั้งใจดัน Moto มากเลยไม่แย่แบบเมื่อก่อน)
- HTC : เป็นค่ายมากนวัตกรรมที่ใจกว้างใช้ทุกระบบแถมเป็นมิตรที่ดีกับ Microsoft วันนึงก็ทรุดด้วยตัวเอง แต่ว่าพี่ใหญ่เกิ้ลก็มาเสียบพร้อมดูดพนักงานไปทำ Pixel
- ZTE : ช่วงนึงมาแรงมาก... สักพักก็หายไปเพราะโดนแบน
- Huawei : อันนี้ชัดมาก... แกคือเบอร์หนึ่งของวงการโทรคมนาคมโลก กำลังจะสยายปีกเข้าสหรัฐแบบเต็มตัวแต่ก็โดนแบนข้อหาภัยต่อความมั่นคง แต่ด้วยความใหญ่โตก็ดันไม่ตายซะทีเดียวพอมีชีวิตรอดไปได้
ทุกค่ายดังที่หายไปโดนเช็คบิลไปจนหมดจากฝีมือคนกลุ่มเดียวที่เรียกหล่อๆว่า "กลุ่มทุนอเมริกัน"
รีเซ็ทความคิดเรากลับไปที่ปี 2010 จะเป็นอย่างไรถ้าวันนั้นหาก Nokia เลือกแอนดรอยด์และโยนระบบซิมเบียนของสหภาพยุโรปทิ้งไป?
- แน่นอนว่าเราจะยิ่งใหญ่
- แน่นอนว่าเราจะครองพิภพจนค่ายจีนไม่ได้เกิด
- แน่นอนว่าบริษัทโนเกียจะไม่มีจัดการใหม่ กล่าวคือ ความเน่าเฟะในโนเกียมันมีนะ จำพวกพนักงานในธุรกิจสายงานซ้ำๆ การทำงานอืดอาดคนละทิศทาง แผนกเยอะเกินไป ฯลฯ นั่นหมายความว่าโนเกียจะมีรายจ่ายมหาศาลต่อไป
- แล้ววันนึงอาจเกิดกรณีพิพาทแล้วโนเกียโดนสหรัฐแบนแบบหัวเว่ย ... ชิฟหายแน่ๆ
- กลับไปที่ข้อก่อนหน้า ... เมื่อพี่ใหญ่พากันแบนเราแล้วเราก็ไม่มีรายได้ ไม่มีตัง สุดท้ายก็ล้มแรงกว่าเดิม ทำอะไรก็ไม่ได้ มัวแต่ปลาบปลื้มกับหุ่นเขียวเลยไม่ได้หาทางสำรองไว้อีก ถึงหาไว้ก็ไม่รอดเพราะคนรักหุ่นเขียวไปเยอะเลย
- คนที่ประกอบธุรกิจใดๆก็ตามจะทราบดีว่า "ค่าแรง" คือค่าใช้จ่ายขององค์กรที่มากที่สุดอย่างหนึ่ง
- สิทธิบัตรมาตรฐานการผลิตสมาร์ทโฟนและที่เกี่ยวข้องกว่า 3 หมื่นรายการ (ที่ทำให้เราเป็นเทพเจ้าในทุกวันนี้) อาจโดนออกมาขายเลหลังเพื่อหาเงินพยุงธุรกิจโนเกียให้เอาไปจ่ายค่าแรงลูกน้อง
- ธุรกิจต่างๆถูกแยกขาย บริษัทแตกเป็นเสี่ยง
- เมื่อล้มดัง... ตังที่จะทำธุรกิจ 5G แบบทุกวันนี้ก็ไม่มีอีก
- สิ้นชื่อจริงๆแบบไม่มีอะไรเหลือเลย
แอดมินเคยคิดแยกๆๆไว้แบบนี้แหละครับ... ข่าวเก่าๆมีเยอะที่บอกว่าคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นโนเกียกว่า 700 คน โหวตให้บริษัทดึงซีอีโอจากไมโครซอฟท์มาช่วยขายกิจการมือถือออกไปให้ได้ โดยมีเงินรางวัลให้จำนวนนึงหลังจบดีล
Stephen Elop และ Steve Ballmer จับมือกันจ๊ะจ๋า เหมือนเอาตัวแทนไมโครซอฟท์สองคนมานั่งจับมือกันหลอกสาวกโนเกีย |
สตีเฟน อิลอป (Stephen Elop) จากไมโครซอฟท์คือตัวเลือกนั้น นอกจากได้หน้าไปฝากลุง Steve Ballmer เจ้านายสุดรักที่กำลังหาทางให้ Microsoft ได้ทำธุรกิจสมาร์ทโฟนก่อนตัวเองจะปลดระวาง... แถมอิลอปยังได้เงินจากโนเกียอีกมีหรอจะไม่สน 555+
สิ่งที่โนเกียจ่ายไปแค่ "เสียหน้าในธุรกิจมือถือ" แต่เราได้เงินจากไมโครซอฟท์มากพอที่จะไปซื้อ Alcatel Lucent ของฝรั่งเศสซึ่งมีห้องวิจัย 5G ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอย่าง Bell Labs ที่เป็นต้นกำเนิดโทรศัพท์ของโลก ... โอ้โห ... สรุปคือ สหรัฐอเมริกาผูกขาดทุกอย่างในจักรวาลได้ แต่ผูกขาดระบบโทรคมนาคมโลกไม่ได้
เพราะอย่างน้อยธุรกิจโทรคมนาคม Nokia, Huawei และ Ericsson ก็ไม่ใช่อะไรที่อเมริกันจะมาบงการได้ง่ายๆ
สิ่งที่เหนือกว่า คือ โนเกียรู้สถานะตัวเองในอนาคต หากปล่อยให้กลุ่มทุนอเมริกันมาชี้เป็นชี้ตายกับบริษัทที่เป็นดั่งตัวแทนของชาวฟินแลนด์ก็เท่ากับยกประเทศให้สหรัฐไปอีก ... ก็แหม่ ฟินแลนด์เพิ่งแยกตัวเป็นเอกราชจากจักรวรรดิรัสเซียในปี 1917 ต้องมาโดนยึดประเทศไปอีกในร้อยปีต่อมาคงไม่ดีแน่ๆแหละ หุหุ
อธิบายเพิ่มเติม
- มีนัยยะมาแล้วว่า Nokia ชอบซื้อแต่ธุรกิจในสหภาพยุโรปด้วยกัน เช่น Alcatel, Withing, Siemens Network และทำงานร่วมกับค่ายรถดังๆแค่ในยุโรป
- โนเกียมักเลือกผู้บริหารเป็นชาวฟินแลนด์ที่อยู่กับโนเกียมายาวนาน การที่จะเลือกชาวอเมริกันอย่าง "อิลอป" ถือว่ามีนัยยะแฝง
- แอดมินไม่มีปัญหาอะไรกับคติทุนนิยมและสหรัฐอเมริกา แอดมินชื่นชมประเทศนี้มากแต่ในทางกลับกันเราศึกษาลึกและพบความไม่แฟร์หลายอย่าง
- ขนาด Windows Phone ยังไม่ได้กินโต๊ะด้วยเลยเพราะ Google ไม่ลงทุนอะไรให้แบบที่ลงทุนใน Apple ... ชี้ชัดว่าสองค่ายนี้จับมือกินรวบตลาดแน่นอน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น